ป้ายกำกับ

วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2565

เดินป่าคนเดียวเพื่อทดสอบความกล้าและจิตใจของตัวเอง

 


บันทึกการเดินทางปี 2022

แม่บ้านสวิตเซอร์แลนด์พาเที่ยว

ตอนที่ 4

เดินป่าคนเดียว

เพื่อทดสอบความกล้าและจิตใจของตัวเอง


16 กรกฎคม พ.ศ.2565 

กับทุกการเดินทางและเกือบทุกกิจกรรมที่แม่ทำในแต่ละวัน แม่จะถ่ายรูปภาพเก็บไว้ดูเสมอ และวันนี้ก็เช่นกันขณะอยู่ที่บ้านพักตากอากาศบนภูเขา บ่ายนี้พ่อมีนัดซ้อมยิงปืนกับเพื่อน ๆ ที่สนามยิงปืนที่หมู่บ้านซึ่งอยู่ด้านล่างและอยู่ติดกับหมู่บ้านของพวกเรา แม่ก็เลยลงมาจากหมู่บ้านบนภูเขาด้วย แต่แม่เลือกเดินเท้าแทนการนั่งรถมากับพ่อ


ก่อนออกเดินทางพ่อถามแม่ว่าแน่ใจใช่ไหมว่าจะเดินลงเขา เนื่องจากแม่เป็นโรคปวดหลังเรื้อรังมานานหลายปีจากโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทซึ่งยังรักษาไม่หาย เวลาเดินลงจากภูเขาเท้าของเราจะรับน้ำหนักจากแรงกระแทกมากกว่าการเดินขึ้นเขา พ่อกลัวแม่จะปวดหลังเลยไม่ค่อยอยากให้แม่เดินเท่าไหร่ แต่แม่ก็บอกพ่อว่าแน่ใจ เพราะแม่อยากทดสอบความกล้าของตัวเองด้วย พ่อก็เลยต้องยอมให้แม่เดินป่าคนเดียว



ทุ่งหญ้าก่อนถึงทางเดินป่า


แม่ออกเดินทางจากบ้านบนภูเขาเวลาบ่ายสองตรง มุ่งหน้ามายังป่าซึ่งเป็นทางลัดที่ไม่ค่อยลัดเท่าไหร่ เป็นทางลาดชันและเงียบจนเกือบจะวังเวง ระหว่างทางนั้นมีแม่เพียงคนเดียวและเสียงดังก๊อกแก๊กจากจิ้งจกที่วิ่งผ่านหญ้าแห้งให้ได้ยินเสียงและหันมองอย่างหวาดระแวงเป็นครั้งครา บวกกับสายลมพัดเบา ๆ พอให้เย็นสบายเป็นช่วง ๆ ระหว่างทางลงเขาที่สูงชัน 


วันนี้อากาศค่อนข้างร้อนแรงแสงแดดแผดเผาตลอดทั้งวัน ใช่สินะก็นี่มันกลางเดือนกรกฎาคมเดือนแห่งฤดูร้อนเต็มรูปแบบแล้วนี่นา อาจจะร้อนไปนิดนึงแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้เจอแดดเอาซะเลย เพราะพืชผักที่ปลูกไว้ในสวนล้วนต้องการแสงแดดเพื่อการเจริญเติบโตกัน พอเห็นผักที่ตัวเองปลูกไว้เจริญงอกงามและได้เก็บเกี่ยวผลผลิต คนปลูกอย่างเราก็ดีใจที่ได้กินผักสด ๆ ที่ตัวเองลงมือปลูก




ศาลานั่งพักระหว่างทาง


ตลอดเส้นทางที่เดินลงเขาไม่มีคนเดินแม้แต่คนเดียว นอกจากความเงียบสงบของธรรมชาติและศาลานั่งพักระหว่างทางอยู่หนึ่งหลัง พร้อมวิวทิวทัศน์ที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านซึ่งอยู่ภูเขาอีกลูก ศาลาหลังนี้สร้างไว้สำหรับให้คนที่ผ่านมาได้นั่งพักระหว่างทาง ขณะเดียวกันก็ได้ดูวิวและบรรยากาศสวย ๆ ไปด้วย แม่นั่งพักที่ศาลานี้แป๊บนึงแล้วก็เดินทางต่อทันที นั่งนานไม่ได้เพราะอยู่คนเดียวมันก็เสียว ๆ อยู่เหมือนกัน


ด้วยทางเดินลงเขาที่ค่อนข้างสูงชัน ชาวบ้านในสมัยก่อนจึงได้ทำบันไดจากก้อนหินน้อยใหญ่ให้พอเดินได้ค่อนข้างสะดวกพอสมควร แต่ต้องคอยระวังอย่างเดียวคือการลื่นล้มจากฝักของต้นสนที่วางเรียงรายอยู่ตามพื้นถนน ถ้าเผลอเหยียบแล้วลื่นล้มขึ้นมาล่ะก็ นอกจากแขนขาถลอกปอกเปิกแล้ว  นึกดูเอาเถอะว่าถ้าบาดเจ็บอยู่ในป่าคนเดียวแล้ว ความรู้สึกจะเป็นยังไง




ทางเดินลงค่อนข้างชัน


แม่ใช้เวลาค่อย ๆ เดินเรื่อย ๆ พร้อมกับหยุดถ่ายรูประหว่างทางบ้างนิดหน่อย ใช้เวลาไปประมาณชั่วโมงกว่า ๆ ก็กลับถึงบ้านได้อย่างปลอดภัย พร้อมแผ่นหลังที่เปียกโชกจากเหงื่อไคลที่ไหลย้อยเพราะแสงแดดที่ร้อนเปรี้ยง ๆ ในตอนบ่ายแก่ ๆ ส่วนพ่อได้ขับรถลงมาถึงก่อนหน้าแม่แล้วประมาณ 10 นาที เมื่อนั่งพักจนหายร้อนแล้ว แม่จึงจัดแจงหาไอศกรีมจากตู้แช่แข็งมาให้พ่อและตัวเองคนละถ้วยเล็ก ๆ ก่อนพ่อจะไปซ้อมยิงปืนกับเพื่อน ๆ ของพ่อ


จริง ๆ คนเราแต่ละคนมีอะไรให้ทำมากมายในแต่ละวัน แม่เองก็เหมือนกัน  เป็นมนุษย์อีกหนึ่งคนที่อยู่นิ่งไม่ค่อยเป็น ต้องหาอะไรทำอยู่ตลอดเวลา ส่วนบันทึกการเดินทางในแต่ละครั้งเป็นเพียงการอยากเล่าเรื่องราวที่แม่ได้ไปสัมผัสด้วยตัวเอง แล้วเอามาเล่าเพื่อส่งต่อเรื่องราวเหล่านั้น เพื่อแชร์ประสบการณ์สำหรับทุกคนที่ได้เข้ามาอ่านได้รับรู้จากเรื่องราวที่แม่ได้ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง


เขียนบันทึกและถ่ายภาพโดย
Rin Switzerland
แม่บ้านไทยในต่างแดน
สวิตเซอร์แลนด์
ดินแดนแห่งหุบเขาและสายหมอก


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ข้าวผัดสับปะรดหวานฉ่ำทำง่ายอร่อยสไตล์เรา

ข้าวผัดสับปะรด   อีกหนึ่งเมนูอร่อยและทำง่ายที่คนชอบข้าวผัดไม่ควรพลาด เมนูอยากแนะนำ ด้วยรสชาติเปรี้ยวอมหวานจากเนื้อสับปะรดฉ่ำ ๆ ก...