แม่บ้านสวิตเซอร์แลนด์พาเที่ยว
ตอนที่ 5
เที่ยวงานประจำปี
ที่หมู่บ้านบนภูเขาของพวกเรา
17 กรกฎาคม พ.ศ.2565
เช้านี้แม่ตื่นนอนเวลาประมาณแปดโมงกว่า ซึ่งนับว่าตื่นสายกว่าทุกวันหลายชั่วโมงพอสมควร คงเป็นเพราะเมื่อคืนนอนดึกไปหน่อย อาการไม่อยากลุกจากที่นอนในตอนเช้าจึงเกิดขึ้น บวกกับช่วงนี้ลูกสาวปิดเทอมด้วยเลยไม่ต้องรีบตื่นนอนแต่เช้ามืดเหมือนช่วงเปิดเทอม แม่จึงพลอยนอนตื่นสายไปกับลูกด้วย ยิ่งพอขึ้นไปนอนที่บ้านบนภูเขาด้วยแล้ว อากาศที่เย็นสบายและเงียบสงบไม่มีเสียงรบกวนก็ทำให้นอนหลับสบายขึ้นไปอีก เรียกว่าหลับลึกทั้งแม่และลูกกันเลยทีเดียว
ทันทีที่เปิดประตูหน้าบ้านออกเพื่อสูดอากาศเย็น ๆ ในตอนเช้า จมูกแม่ก็ได้สัมผัสกับกลิ่นหอมจากเนื้อย่างที่ลอยมากับอากาศยิ่งเพิ่มความสดชื่นเข้าไปอีก อ้อ..ใช่แล้ว วันนี้มีงานประจำปีของภูเขานี่นา งานประจำปีที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สองของเดือนกรกฎาคมของทุกปี ซึ่งปีนี้ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม เป็นงานประจำปีที่จัดขึ้นเพื่อความสนุกสนานที่สืบทอดมานานจากรุ่นสู่รุ่นและส่งต่อไปยังรุ่นต่อ ๆ ไป
สำหรับในงานปีนี้ไม่ได้มีอะไรมากมาย นอกจากทานอาหารเที่ยงของผู้คน ทั้งที่มีบ้านพักตากอากาศอยู่ที่นี่ และคนที่มาจากหมู่บ้านอื่นแล้วแวะมาทานอาหารเที่ยงที่นี่ ซึ่งเมนูวันนี้มีซี่โครงหมูย่างและยำมันฝรั่งพร้อมยำมะเขือเทศอร่อย ๆ ฝีมือการปรุงของทีมพ่อครัวประจำงานหลาย ๆ คน นอกจากซี่โครงหมูย่างแล้วยังมีข้าวโพดบดต้มสุกหรือ polenta และหมูตุ๋นอีกหนึ่งเมนูอีกด้วย
แต่เดี๋ยวก่อน งานประจำปีที่นี่ไม่ได้ทำอาหารให้กินฟรีหรอกนะคะ อย่าพึ่งเข้าใจผิดคิดว่าทุกคนจะมากินฟรีค่ะ ทุกคนที่มางานต้องซื้อคูปองแลกอาหารก่อนนะถึงจะได้อาหารมานั่งทานนะคะ โดยราคาค่าอาหารคือจานละ 15 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 500 บาทไทย ส่วนเครื่องดื่มก็ต้องซื้อเหมือนกัน ราคาเครื่องดื่มจ่ายตามราคาขายหน้าเคาน์เตอร์ ดื่มมากจ่ายมาก ดื่มน้อยจ่ายน้อย แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคนเลยค่ะ
ส่วนครอบครัวเรามีกันสามคนพ่อแม่ลูก อาหารคนละจานก็จ่ายเงินไป 45 ฟรังก์สวิส หรือประมาณ 1600 บาทไทย และเครื่องดื่มคือโค้กขวดเล็กหนึ่งขวดและเบียร์อีกหนึ่งแก้ว แม่จ่ายค่าเครื่องดื่มไป 11 ฟรังก์ หรือประมาณ 390 บาทไทย รวมเบ็ดเสร็จแล้ว วันนี้ครอบครัวเราจ่ายค่าอาหารมื้อเที่ยงไป 56 ฟรังก์ หรือประมาณ 1990 บาท สำหรับอาหารสามจานและเครื่องดื่มอีกสามแก้ว
ถามว่าแพงมั้ยก็ต้องบอกว่า เวลามีงานเทศกาลตามสถานที่ต่าง ๆ ของที่นี่ ค่าอาหารก็จะประมาณนี้เกือบทุกที่ หรือบางที่แพงกว่านี้เท่าตัวก็มีแต่ทุกคนก็ยินดีจ่าย และแม่จะย้ำเสมอว่างานประจำปีหรืองานอะไรต่าง ๆ ของที่นี่จะไม่มีอาหารให้กินฟรีเหมือนที่ประเทศไทยนะคะ ไม่มีโรงทานให้บริการอาหารและเครื่องดื่มเหมือนบ้านเรา ทุกอย่างต้องจ่ายเงินซื้อเท่านั้นค่ะ
สำหรับงานในวันนี้นับว่าคนมาร่วมงานน้อยกว่าหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งปีก่อน ๆ จะมีทั้งดนตรีบรรเลงเพลงพื้นเมืองให้ฟังตลอดงานด้วย ปีนี้ค่อนข้างเงียบนิดหน่อย ได้ยินมาว่าขายอาหารได้สองร้อยกว่าจานเท่านั้นเอง ซึ่งปกติจะต้องขายได้มากกว่าสามร้อยจานขึ้นไป สาเหตุอาจจะเป็นเพราะว่าโรคระบาดที่เริ่มจะกลับมาระบาดอีกรอบก็ได้ แต่เท่าที่เห็นคนที่มาทานอาหารในวันนี้ก็ยังใช้ชีวิตกันตามปกติ ยังนั่งทานอาหารและสนทนากันแบบแนบชิดจนแทบติดกันอยู่
ส่วนแม่นั้นไม่ล่ะค่ะ ดิฉันไม่ได้สนทนากับใครเท่าไหร่ ก็ไม่รู้จะคุยกับใครด้วยนั่นแหละเพราะเราไม่ได้รู้จักใครมากมาย แค่ทักทายคนรู้จักนิดหน่อยก็พอ แต่จะว่าไปชีวิตปกติแม่ก็ไม่ค่อยคุยกับใครเท่าไหร่หรอก จะว่าโลกส่วนตัวสูงก็คงได้ แม่ไม่ชอบเสียงคนคุยกันเยอะ ๆ เพราะรู้สึกว่าคุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แถมแม่ยังนั่งทานอาหารห่างจากชาวบ้านเขาอีก ทานอาหารเสร็จก็รีบกลับบ้านทันที เช่นเดียวกับหลาย ๆ ที่มาร่วมงาน พอทานข้าวเสร็จก็กลับบ้านใครบ้านมันเช่นกัน
เขียนบันทึกและถ่ายภาพโดย
Rin Switzerland
แม่บ้านไทยในต่างแดน
สวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่งหุบเขาและสายหมอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น